ชาวบ้านพบร่องรอยเซลล์สาว 3 ปีก่อน – ตำรวจเผยหลักฐานมีมากกว่ากล้องหน้ารถ

ชาวบ้านพบร่องรอยเซลล์สาว 3 ปีก่อน – ตำรวจเผยหลักฐานมีมากกว่ากล้องหน้ารถ

จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค.) ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่คลองน้ำชัยนาท-ป่าสัก จ.สระบุรี อีกครั้ง และระบุว่า ความคืบหน้าของคดีนั้น ตำรวจอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ตอนนี้ทางผู้บังคับบัญชากำชับมาว่าให้หาหลักฐานมาดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ได้ จึงลงพื้นที่มาตรวจสอบสถานที่พบศพว่าเป็นอย่างไร ใครจะเชื่อมโยงกันได้บ้าง และใครคือผู้ต้องสงสัยบ้าง

ส่วนที่พนักงานสอบสวนเรียกตัวเสี่ยมาสอบนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบรายละเอียด 

โดยขณะนี้จะต้องหาหลักฐานมาเชื่อมโยงกันให้ได้ ส่วนเรื่องที่จะมีการตรวจสอบกล้องหน้ารถของผู้ตายนั้น ถ้าหากกล้องเสียไม่สามารถตรวจสอบได้ ทางตำรวจยังคงมีหลักฐานอื่นๆ ที่จะสืบคดีได้อยู่ ด้าน นายไพโรจน์ กำกิน อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เผยหลังไปเห็นร่องรอยของรถของผู้ตายไหลคลอง ว่าก่อนหน้านี้ตนประกอบอาชีพขับรถโดยสารรับจ้าง ซึ่งจะต้องขับผ่านถนนเส้นนี้ทุกวัน เช้าวันหนึ่งตนขับมาติดไฟแดงเห็นต้นหญ้าสีเขียวขนาดสูงท่วมหัวล้มเป็นรอยเหมือนมีรถวิ่งผ่านลงไปในคลอง แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไรจึงขับผ่านไปตามปกติ

กระทั่งตอนเย็นตนขับรถกลับมาที่เดิม ด้วยความอยากรู้ จึงจอดรถงไปดู ก็พบว่าบนยอดหญ้ามีสีแดงเหมือนเป็นรอยไหม้ แต่ไม่พบว่ามีรอยรถเบรก จากนั้นจึงได้นำเรื่องราวที่เจอมาเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ ตนจึงไม่ได้เข้าแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่พอมาวันนี้ทราบข่าวดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่ารอยที่ตนเห็นในวันนั้นเป็นรอยของรถที่พบศพของ น.ส.กลิ่นเกษร นั่นเอง จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก

ความคืบหน้าวันนี้ (11 ธ.ค.) น้องชายของผู้ตายเผยว่า ก่อนที่พี่ของตนจะหายตัวไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่ตนอยู่กับพี่สาว แล้วก็แม่ภายในรถ พี่สาวได้ร้องไห้และปรับทุกข์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตนเห็นพี่สาวร้องไห้ เพราะปกติพี่ต่อจะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ในวันนั้นพี่สาวเล่าว่า เขามีความกังวลในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องธุรกิจ และเรื่องที่ทะเลาะกับเสี่ยที่ไม่เข้าใจ มีการหึงหวงกันด้วย เพราะพี่สาวเป็นเซลส์จะต้องพบเจอกับลูกค้า และพี่สาวหน้าตาดี มีคนมาชอบมากมาย ก็เกิดการทะเลาะกันบ่อยครั้ง

นอกจากนั้น พี่สาวยังเล่าว่า ตอนนั้นมีคนสะกดรอยตามมาเป็นอาทิตย์แล้ว ซึ่งคิดว่าอาจเป็นคนของเสี่ย และเวลาที่ทะเลาะกัน เสี่ยยังให้ลูกน้องมาขนของหนี ขนชุดไทย ขนอุปกรณ์ขายสเต็กเพื่อ ไม่ให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ทำให้พี่สาวเครียด อีกทั้งทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เสี่ยมักจะใช้อำนาจที่เขามีข่มขู่พี่สาวตลอด โดยบอกว่า ‘เขาสามารถฆ่าคนแล้วไม่ติดคุกได้’ ซึ่งตนก็พยายามปลอบใจพี่ตลอด

พี่สาวตนบอกว่า อยากจะเลิก อยากจะหนีไปสัก 3 ปี อยากหนีไปไกลๆ เพราะเสี่ยค่อนข้างมีอิทธิพลตามได้อยู่แล้ว ถ้าหายไปแสดงว่าพี่ได้หนีไปแล้ว พอหายไปจริงๆ ตอนนั้นก็เลยคิดว่าพี่สาวน่าจะหนีไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ตนก็เริ่มสงสัย และในใจก็คิดว่าพี่สาวมีโอกาสรอดน้อยแล้ว เพราะถ้าหากยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะติดต่อมาหาใครสักคนที่สนิทและไว้ใจได้ แต่กลับไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย เลยคิดว่าพี่สาวน่าจะต้องเป็นอะไรอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน ตนก็ทราบว่าเสี่ยซื้อของแห้งไปฝากตายายตลอด ซึ่งตนก็แอบคิดว่าที่เสี่ยทำแบบนี้ต้องการอะไรหรือเปล่า เพราะมองว่ามีความผิดปกตินิดหน่อย หากคนเราหมดใจ เลิกรากันไป ก็ควรจะหยุดได้แล้ว ไม่ควรมาทำแบบนี้ และเมื่อมาพบศพตนก็ทราบทันทีว่าเป็นศพของพี่สาวตน สุดท้ายนี้ตนขอให้พี่สาวไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์

พบกล้องหน้ารถ คดีเซลล์สาวถูกพบเป็นศพในรถจมน้ำ พร้อมสอบเสี่ย

จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุด วานนี้ (10 ธ.ค.) ตำรวจสภ.หนองโดน จ.สระบุรี ได้ประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อหารือความคืบหน้าของคดี

พ.ต.อ.อมร ศรีทุนะโยธิน รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ ส่งไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะนำมาวิเคราะห์ในเรื่องรูปคดี แต่ในชั้นนี้ยังไม่ขอเปิดเผยหลักฐาน เพราะต้องค่อยๆ รวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด ต้องรอบคอบ

ทาง สภ.พระพุทธบาท ได้สอบสวนพยานบุคคลได้หลายคนแล้ว และได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในตอนนั้นได้พอสมควร โดยมีการพบผู้ตายครั้งล่าสุดเมื่อเดือน พ.ย.59 ส่วนที่มีการพบภาพของผู้ตายครั้งล่าสุดปรากฏที่ไหนบ้างนั้นก็มีอยู่ในสำนวนแล้ว ส่วนกรณีภาพที่มีการพูดถึงว่าพบผู้ตายนั่งเคียงคู่กับเสี่ยชื่อดังของ จ.สระบุรี นั้น ทาง พ.ต.อ.อมร กล่าวว่าตนยังไม่เห็น ยังไม่เจอ และได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว

ทาง สภ.พระพุทธ ได้มีการสอบสวนเสี่ยรายนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุได้ส่งไปตรวจวิเคราะห์ ซึ่งผลยังไม่ออกมา และยังไม่สามารถชี้ชัดไปได้ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ทางตำรวจจะต้องตรวจสอบทุกประเด็น ส่วนปืนที่เจอทราบว่าเป็นปืนบีบีกันไม่ใช่ปืนจริง

นอกจากนี้ พ.ต.อ.อมร กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้หนักใจเพราะทำตามหน้าที่และพยานหลักฐานทั้งหมด โดยคาดว่าน่าจะเร่งไขคดีได้โดยเร็ว ส่วนกล้องหน้ารถของผู้ตายนั้น พนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจ ซึ่งทางตำรวจก็ไม่กล้าแกะหรือเอามาดูด้วยมือเอง แต่ให้ทางกองพิสูจน์เป็นคนดูจะดีกว่า

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร